การที่ร่างกายของเราอ่อนเพลียเรื้อรังอาจมาจากสาเหตุได้หลายสาเหตุ ในบทความนี้จะกล่าวถึงสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้คุณมีอาการอ่อนเพลียหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ นั่นก็ คือ การลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนัก
เมื่อร่างกายได้รับแคลอรี่ที่น้อยเกินไป ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักหรือการเร่งรีบทานอาหารก็ตาม อาการอ่อนเพลียก็สามารถจะโจมตีคุณได้อย่างรุนแรง เพราะคุณไม่ได้รับแคลอรี่หรือสารอาหารที่เพียงพอที่ร่างกายต้องการในการทำงานให้เป็นปกติได้
ในการลดน้ำหนักโดยปกตินั้น คุณจะใช้แคลอรี่มากกว่าปกติที่ทานเข้าไป ดังนั้นร่างกายจึงเปลี่ยนไปเผาผลาญแคลอรี่ที่ “เก็บไว้” ในไขมันแทน แต่เมื่อคุณจำกัดแคลอรี่มากเกินไป ร่างกายจะเริ่มทำงานได้แย่ลง หรือตามที่ ด๊อกเตอร์ แมนเฟรด โครเกอร์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์อาหารจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตทได้กล่าวว่า “ร่างกายจะเริ่มกินตัวเอง” และ “กระบวนการทั้งหมดนี้ผิดปกติและทำให้เกิดความเครียดต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และหนึ่งในอาการหลากหลายของความเครียดก็คือ อาการอ่อนเพลีย”
ดังนั้นจึงให้คุณหลีกเลี่ยงอาการอ่อนเพลีย อันเนื่องมาจากการจำกัดอาหาร ไม่ควรลดแคลอรี่ลงจนต่ำกว่าวันละ 1000 (โปรแกรมลดน้ำหนักส่วนมากจะให้แคลอรี่ต่ำสุดสูงกว่าตัวเลขนี้) นอกจากนี้การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายต้องการแคลอรี่เพิ่มอีก 1000 แคลอรี่อีกด้วย
และการทานอาหารที่ไม่หลากหลายอาจแย่เหมือนกับการจำกัดแคลอรี่เช่นเดียวกัน คุณอาจอยู่ในความเสี่ยง หากรับประทานอาหารที่มีสารอาหารต่ำกว่าปกติหรือแม้แต่การขาดสารอาหาร
ดังนั้นในการลดน้ำหนัก โดยไม่เสียพลังงานควรปฏิบัติดังนี้ :
- ลดไขมันลง แคลอรี่จากไขมันจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันในร่างกายได้ง่ายกว่าแคลอรี่จากโปรตีนหรือคาร์โบไฮเดรต ยิ่งไปกว่านั้น ไขมันจะให้แคลอรี่สูงกว่าอีกสองอย่างข้างต้น ให้ทดแทนอาหารที่มีไขมันด้วยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง อย่างเช่น ผลไม้,ผัก,ธัญพืชและพาสต้า พวกนี้สามารถจะช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้ โดยไม่ต้องจำกัดแคลอรี่ที่มากเกินไป ที่จริงแล้วการลดน้ำหนัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักส่วนมากแนะนำว่า ให้นับจำนวนกรัมของไขมัน ไม่ใช่นับแคลอรี่ อาหารที่มีแคลอรี่จากไขมันน้อยกว่า 30 % จะช่วยคนส่วนมากให้ลดน้ำหนักลงได้ และลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคภัยลดน้อยลง
- เดินทางสายกลางในการลดน้ำหนักตัว ควรจะลดน้ำหนักตัวลงสัก 1-2 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หากมากกว่านี้จะเกิดความเสี่ยงได้ การลดน้ำหนักมากจะเพิ่มโอกาสที่คุณจะอ่อนเพลียมากขึ้นได้และอาจทำให้นิ่วในถุงน้ำดีได้ นายแพทย์สตีเฟ่น เฮยม์สฟิลด์ ผู้อำนวยการลดน้ำหนักตัวของศูนย์วิจัยในกรุงนิวยอร์ค กล่าวว่า การทำเช่นนี้ยังสามารถทำให้เกิดปัญหาต่อหัวใจอีกด้วย