ถ้าคุณกำลังพยายามทานอาหารเพื่อสุขภาพ ถือว่านั่นเป็นทางเลือกที่ฉลาดและมีประโยชน์มากสำหรับร่างกายของคุณ คุณจะพบว่าการทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวและมีความสุข และยังเป็นวิธีลดความอ้วนอีกวิธีที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและคุณต้องใช้เวลาอย่างมากในการหาอาหารที่เหมาะสม
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาหารบางชนิดที่คุณพิจารณาแล้วว่าเป็นอาหารเพื่อ “สุขภาพ” นั้น ตามความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพอย่างที่คุณคิด ? คุณจะประหลาดใจที่พบว่าอาหารเพื่อสุขภาพหลายๆชนิดนั้น มันไม่ดีต่อสุขภาพและร่างกายของคุณหรือมันอาจจะไม่ส่งผลอะไรเลยตามที่คุณต้องการ และอาหารเพื่อสุขภาพจำนวนมากนี้สามารถส่งผลที่คุณไม่คาดคิดได้ หากว่าคุณไม่ระมัดระวัง อาหารเพื่อสุขภาพที่อาจส่งผลต่อคุณมีดังนี้ :
น้ำมันมะกอก (Olive Oil)
น้ำมันมะกอกเป็นอาหารที่ทานแล้วดีต่อหัวใจ ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวที่ต่ำและไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่สูง คุณจะพบว่าน้ำมันมะกอกสามารถนำมาใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ ถือว่าเป็นวิธีลดความอ้วนไปในตัว โดยใส่ไปในการปรุงอาหารก็ได้ เพราะน้ำมันมะกอกดีต่อหัวใจของคุณและยังช่วยลดความเสี่ยงด้านปัญหาสุขภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจและหลอดเลือด , ระดับคอเลสเตอรอลที่สูง, ความดันโลหิตสูง, การไหลเวียนของร่างกายที่ผิดปกติ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอื่นๆ
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันมะกอกนี้สามารถเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งด้อย่างง่ายดาย ? น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แบบ Extra Virgin มีจุด Smoke Point (จุดที่ก่อให้เกิดควัน) ที่ 207 องศาเซลเซียส (405 ฟาเรนไฮร์) อุณหภูมินี้หมายความว่า อุณหภูมิที่น้ำมันมะกอกเริ่มกลายเป็นควันและเริ่มเสื่อมคุณค่าทางโภชนาการ ไม่เพียงแต่มีกลิ่นที่แย่แล้ว น้ำมันมะกอกยังมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง (Carcinogens) และการใส่น้ำมันมะกอกลงไปในการทำอาหารนั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ดี และเป็นตัวเลือกที่อาจส่งผลแบบที่คุณไม่คาดคิดได้
ข้อเสียอื่นๆของน้ำมันมะกอกก็คือ ความจริงที่ว่ามันเป็นน้ำมันที่อุดมไปไขมัน ไขมันนี้มีแคลอรี่ถึง 9 แคลอรี่ต่อกรัม ขณะที่โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตมีแคลอรี่เพียง 4 แคลอรี่ คุณสามารถใช้น้ำมันมะกอกได้ในจำนวนเล็กน้อย เพราะมันอาจเป็นการเพิ่มแคลอรี่ของคุณอย่างรวดเร็ว นอกจากว่าคุณจะระมัดระวังโดยการตวงปริมาณน้ำมันมะกอกเป็นช้อน ความเสี่ยงจากการใช้น้ำมันมะกอกมากเกินไป จะทำให้แคลอรี่ของคุณมากเกินไปและมีแคลอรี่ที่สูงมากอีกด้วย
ซูชิ (Sushi)
เมื่อเราคิดถึงซูชิ เราจะคิดเสมอว่ามันเป็นอาหารที่ค่อนข้างมีไขมันที่ต่ำ อย่างไรก็ตามมันไม่มีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะในเนื้อปลา, ข้าว, สาหร่ายและผักที่นำมาทำซูชิก็ตาม มันดูเหมือนว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจึงไปร้านที่ขายซูชิและทานมันอย่างเต็มที่เพราะเป็นของโปรดของหลายๆคน
ซูชิตามจริงแล้วเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมันจะเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพทันทีถ้าคุณบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป เราลองมาดูกันว่าซูชิประกอบไปด้วยส่วนผสมอะไรบ้าง :
- สาหร่ายแผ่นบาง
- ข้าวขาวที่หนา
- เติมส่วนผสมอื่น
ซูชิส่วนใหญ่จะทำมาจากข้าวขาวซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตกับร่างกายสูง ไม่เพียงแต่มีคาร์โบไฮเดรตจำนวนมากเท่านั้น แต่ข้าวขาวเป็นสารอาหารที่ให้เพียงพลังงานแต่ไม่ได้ให้ประโยชน์เรื่องของสารอาหารและไฟเบอร์ (Fiber) การทานซูชิจำนวนมากอาจจะทำให้คุณรู้สึกดี แต่คุณจะพบว่าการบริโภคข้าวขาวเยอะๆนั้นอาจเป็นสาเหตุของการยับยั้งระดับน้ำตาลในเลือดของคุณได้
การยับยั้งนี้จะทำให้ร่างกายของคุณผลิตอินซูลินซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงกว่าปกติ ไม่เพียงแต่คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้าและง่วงนอนเท่านั้น แต่คุณจะหิวอยู่บ่อยๆ อีกด้วย การที่ร่างกายมีคาร์โบไฮเดรตจำนวนมากนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณเลย ดังนั้นคุณไม่ต้องให้ซูชิเป็น “อาหารเพื่อสุขภาพ” เลยก็ได้ แม้มันจะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินกับการทานในตอนนี้ก็จริง แต่มันไม่อยู่ในรายการอาหารที่ควบคุมน้ำหนักหรืออยู่ในรายชื่ออาหารตามวิธีลดความอ้วนของคุณ
สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือ การที่ซูชิประกอบด้วยเนื้อสัตว์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปลาดิบ, กุ้ง และอาหารทะเลอื่นๆ ขณะที่ปลาและอาหารทะเลมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพในระดับหนึ่งเสมอ แต่ในปีที่ผ่านมาอาหารทะเลมีการปนเปื้อนมากขึ้น มันยากในการที่จะหลีกเลี่ยงสารปรอท, รังสีและสารพิษอื่นๆโดยเฉพาะในปลาดิบ คุณรู้แค่เพียงว่าสารพิษเหล่านี้มันเป็นผลเสียและเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้คุณควรจะหลีกเลี่ยงการทานปลาดิบทั้งหมด
ถั่ว
ใครบ้างที่ไม่ชอบกินถั่ว ? ถั่วไม่เพียงแต่เป็นขนมที่ได้รับความนิยม เพื่อกินระหว่างเดินทางเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยประโยชน์จากการกระตุ้นการย่อยอาหารจำพวกเส้นใยอีกด้วย คุณสามารถพบว่าไขมันที่ไม่อิ่มตัวในถั่วนี้เป็นวิธีลดความอ้วนให้คุณได้ คือ มันสามารถช่วยคุณในการควบคุมน้ำหนักได้และส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพ เพราะถั่วมีไขมันที่ไม่อิ่มตัวทำให้อิ่มนานและทานอาหารได้น้อยลง
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ คือ ถั่วมีไขมันเป็นหลักถึง 80 % คำแนะนำก็คือ ไม่ควรรับประทานเกินหนึ่งกำมือ แต่ขนาดกำมือของแต่ละคนค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นถ้านับเป็นชิ้นก็ไม่ควรเกิน 15 ถึง 20 เม็ด
ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าได้ทานถั่วไปเยอะแค่ไหน แคลอรี่ก็เพิ่มขึ้นซะแล้ว แม้ว่าถั่วจะสามารถเป็นวิธีลดความอ้วนที่ทำให้เราทานได้น้อยลงก็จริง แต่หากทานเยอะไปก็อาจกลายเป็นเพิ่มแคลอรี่แทนได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงควรต้องระวังปริมาณที่ทานไม่ให้เกินกว่าที่แนะนำ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าคุณทานอาหารที่เต็มไปด้วยไขมันมากกว่าอาหารเพื่อสุขภาพ
อะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่สมบูรณ์มากที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่มีไฟเบอร์จำนวนมากแต่ยังมีโปรตีนและการจัดการที่ดีของไขมันไม่อิ่มตัวในผลไม้อีกด้วย อะโวคาโดสามารถนำมาทำเป็นของว่างที่เรียกว่า กัวคาโมเล่ (Guacamole Dip)ได้อีกด้วย คุณจะรู้สึกว่ามันดีต่อสุขภาพอย่างมากเมื่อคุณเพิ่มอะโวคาโดลงไปในเมนูอาหารต่างๆ
อย่าหลงกล! ในขณะที่อะโวคาโดสามารถลดไขมันหน้าท้องที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวได้ แต่มันก็มีแคลอรี่ที่สูงมากเช่นกัน ในผลอะโวคาโดทั้งผลนั้นมีแคลอรี่สูงถึง 200 แคลอรี่และส่วนใหญ่เป็นไขมันทั้งสิ้น คุณจะพบว่าอะโวคาโดสามารถเพิ่มแคลอรี่ที่สูงได้ในการควบคุมอาหารและน้ำหนักของคุณ และหากทานอะโวคาโดที่ยังไม่สุกและทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้คุณปวดศีรษะได้ ดังนั้นให้ทานแต่ผลที่สุกเท่านั้น
โชคดีที่อะโวคาโดสามารถทานได้ในปริมาณที่น้อยมาก เพียงแค่หนึ่งในสี่ของผลอะโวคาโดก็เพียงพอที่คุณจะใส่ในสลัดได้ ซึ่งทำให้มื้ออาหารนั้นของคุณเป็นมื้อที่มีความหลากหลายและสมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้คุณยังพบว่า หนึ่งชิ้นนี้มีแคลอรี่ถึง 60 แคลอรี่เลยทีเดียว
น้ำผลไม้
สำหรับคนที่รักสุขภาพ น้ำผลไม้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่นิยมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้คั้นสด, น้ำผลไม้ปั่น และน้ำผลไม้เพื่อดีท็อกซ์ รสชาติของน้ำผลไม้จะทำให้คุณดื่มง่ายเพราะมีรสชาติหวานและอร่อยในทุกๆวัน
น่าเสียดายว่าน้ำผลไม้ที่นิยมกันนั้นไม่ได้เป็นน้ำผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างที่คุณคิด!
เมื่อคุณทานผลไม้เป็นชิ้น นอกจากจะได้น้ำจากผลไม้นั้นแล้วยังได้น้ำตาล, ไฟเบอร์, แร่ธาตุ, วิตามินและอื่นๆอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อคั้นผลไม้นั้นให้เป็นน้ำผลไม้แล้วนั้น จะมีเพียงน้ำและน้ำตาลจากผลไม้เท่านั้นที่ถูกคั้นออกมา
ไฟเบอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เนื้อผลไม้นั้น รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆอีกด้วย โดยเวลาที่คุณทานน้ำผลไม้เย็นนั้น สิ่งที่คุณดื่มไปทั้งหมดก็คือ น้ำที่เต็มไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติเท่านั้น
น้ำผลไม้ส่วนใหญ่ที่คุณพบในวันนี้อาจจะบอกได้ว่า มันมาจากธรรมชาติ “100 %”แต่มันจะขาดไฟเบอร์ซึ่งหมายความว่า มันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของคุณแล้วอย่างรวดเร็ว น้ำผลไม้ส่วนใหญ่เป็นเพียงน้ำและน้ำตาลธรรมดา ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่ก็มีความหวานที่ทำให้แคลอรี่สูงได้ ซึ่งอาจทำให้แคลอรี่เพิ่มได้ถึง 300 ถึง 400 แคลอรี่จากน้ำผลไม้แก้วใหญ่เลยทีเดียว
หากคุณกำลังจะทานน้ำผลไม้ คุณต้องแน่ใจว่าน้ำผลไม้นั้นมีการผสมของผลไม้ที่คั้นเป็นน้ำจริงๆ ไม่มีการผสมกับอะไร ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณได้รับไฟเบอร์ในปริมาณมาก และคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจะได้รับน้ำตาลจากธรรมชาติเกินขนาด
ข้าวโอ๊ตบด
ข้าวโอ๊ตไม่เพียงแต่เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารหลักของทุกๆมื้ออาหารอีกด้วย ข้าวโอ๊ตมีไขมันที่ค่อนข้างต่ำ, มีโปรตีนสูง, เต็มไปด้วยไฟเบอร์และอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตที่คุณต้องการในการใช้พลังงาน การทานข้าวโอ๊ตบดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมอะไรที่คุณใส่ลงไปผสมในข้าวโอ๊ตบด ? ข้าวโอ๊ตถือว่าเป็นอาหารหลักที่กินทั้งเมล็ดได้ ซึ่งถือว่าเป็นธัญพืชที่สำคัญอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ ข้าวโอ๊ตบดเป็นอาหารที่ชาวอังกฤษนิยมทานเป็นอาหารเช้า โดยเติมนม เติมน้ำตาลให้หวานหอม ก็จะคล้ายๆซุปเหมือนโจ๊กบ้านเรา ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่มีกากใยสูงและแคลอรี่ต่ำ ช่วยลดไขมันอิ่มตัวและลดระดับคอเลสเตอรอลได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย แต่หากว่าคุณเพิ่มน้ำตาลหรือเพิ่มนม เนย เพื่อช่วยให้ทานข้าวโอ๊ตง่ายขึ้นและอร่อยขึ้น ก็เท่ากับว่าคุณก็จะไปเพิ่มจำนวนแคลอรี่ให้สูงขึ้นไปอีกด้วย
วิธีที่ดีที่สุดในการทานข้าวโอ๊ตโดยไม่ให้แคลอรี่สูงขึ้น ทำได้ดังนี้ : การผสมกับเครื่องเทศบางชนิด, อบเชย,กระวาน, กานพลู และขิง ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับข้าวโอ๊ตได้เป็นอย่างดี และคุณสามารถเพิ่มซอสแอปเปิ้ลลงไปเพิ่มได้เพื่อแทนการใส่ครีม บางทีคุณอาจจะใส่ถั่ว หากคุณต้องการให้เป็นของว่างที่แคลอรี่ต่ำ ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากนมใดๆ
ชาเขียว
หากคุณไม่ระวัง ชาเขียวสามารถเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุขภาพที่ส่งผลเสียสำหรับคุณได้!
ชาเขียวมีประโยชน์ในการเผาผลาญไขมันที่ดี และมันเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ คุณจะพบว่าคาเฟอีนจำนวนเล็กน้อยในชาเขียวสามารถช่วยในการเผาผลาญไขมันได้อย่างรวดเร็วขึ้น และคุณสมบัติของชาคือ การทำงานที่สามารถระงับความอยากอาหารของคุณได้อย่างดีอีกด้วย
มาดูอีกด้านของชาเขียว คุณรู้ไหมว่าการดื่มชาเขียวมากเกินไปจะทำให้ร่างกายของคุณหยุดการดูดซึมธาตุเหล็ก? การขาดธาตุเหล็กจะนำไปสู่การเป็นโรคโลหิตจางซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง
หากคุณดื่มชาเขียวมากกว่า 3 แก้วต่อวัน มันจะทำให้คุณมีความเสี่ยงมากขึ้นและเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณ แทนการดื่มชาเขียวที่มากเกินไป คุณอาจจะดื่มหนึ่งหรือสองถ้วยในตอนเช้าได้ – แทนการดื่มกาแฟประจำวัน
หากคุณสามารถทำได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น การมีสุขภาพที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวคุณอีกต่อไป และก่อนที่คุณจะทานอาหารหรือเครื่องดื่มชนิดใด ควรมีการศึกษาประโยชน์และโทษให้ดีๆ เพื่อที่ว่าจะได้ทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายและมีประโยชน์ต่อร่างกายและอยู่อย่างยืนยาวอีกด้วย