ชาวโอกินาวาไม่ค่อยเป็นโรคหัวใจ ไม่ค่อยมีไขมันในเลือดสูง ไม่ค่อยพบมะเร็งเต้านม ไม่ค่อยเจอมะเร็งต่อมลูกหมาก แล้วยังขี่จักรยาน ตกปลา ทำสวน ความจำเสื่อมก็ไม่มาก
อาหารหลักของคนที่นี่ประกอบด้วยผัก ข้าว เส้นหมี่ ปลาทะเล ถั่วเหลือง ธัญพืช สาหร่าย ชาเขียว ซึ่งเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และไกลซีมิกอินเด็กซ์ต่ำ คำนวณแคลอรี่ของอาหารโอกินาวาประมาณ 1 แคลอรี่ต่อกรัม ฉะนั้นแทบจะไม่เห็นคนอ้วนบนเกาะนี้เลย ค่าดัชนีมวลกายของคนที่นี่ประมาณ 20.4 กิโลกรัม/ตารางเมตร
เมื่อวิเคราะห์ดูลักษณะอาหารโอกินาวาแล้วพบว่า เป็นอาหารที่มีกากใยสูง โดยเฉพาะพวกผัก ผลไม้ต่างๆ สำหรับปลาทะเลมีโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยลดไขมันแอลดีแอล (LDL) ได้ดี นอกจากนี้อาหารดังกล่าวยังมีแคลเซี่ยมและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จากการศึกษาโอกินาวา เซ็นเทนเนเรียน พบว่า อาหารโอกินาวามีวิตามินซี วิตามินดี วิตามินเอ กรมโฟลิก แคลเซียม โปตัสเซียม มากกว่าอาหารญี่ปุ่นโดยทั่วไปถึง 2 เท่า และพบเกลือโซเดียมต่ำกว่าอาหารทั่วไปถึงร้อยละ 50 ดังนั้นอาหารโอกินาวาจึงค่อนข้างจืด แต่ช่วยลดอัตราการเกิดความดันโลหิตสูงได้
ทานซุบมิโสะก่อนอาหารทุกมื้อ
อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ในกระเพาะอาหารบางส่วน และนอกจากนี้ให้รับประทานอาหารแค่ความรู้สึกของร้อยละ 80 ของความอิ่ม มายความว่าเมื่อเริ่มรู้สึกใกล้จะอิ่มแล้วให้หยุดทาน ไม่ต้องเสียดาย เลิกเสียเถอะกับความรู้สึกที่ว่าอิ่ม
มันฝรั่งหวาน และมะระโกย่า มักจัดอยู่ในเมนูของอาหารโอกินาวา ซึ่งให้พลังงาน 1 แคลอรี่ต่อกรัม และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มะระโกย่านอกจากนำมาใช้ประกอบอาหารชนิดต่างๆแล้วยังนำมาทำเป็นน้ำปั่นหรือคั้นสดไว้ดื่มก็ได้
กินพืชผัก
รับประทานมะระญี่ปุ่นที่เรียกว่าโกย่า ผัด กับเต้าหู้และไข่เป็น มะระญี่ปุ่นนั้นมีสารที่เรียกว่า โพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้าน อนุมูลอิสระที่ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อในร่างกายเป็นจำนวน มาก และเต้าหู้ทั้งหลายที่ชาวญี่ปุ่นชอบรับประทานนั้นมีสารอาหารที่เรียก ว่า ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยลดโอกาสการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดไป
กินปลา
ชาว โอกินาวากินปลาทะเลที่มีมัน ทำให้ได้น้ำมันชั้นดี เป็นกลุ่มผักกับปลา ได้แก่ กระเทียม ขิง หัวหอม มะเขือเทศ ปลา
กินนมและเนื้อแดงน้อย
การกินเนื้อและผลิตภัณฑ์นมน้อย มีส่วนทำให้ได้รับ ไขมันอิ่มตัวน้อยลง ประเด็นสำคัญอยู่ที่การปรุงเนื้อหมูของชาวโอกินาวานั้น มักจะปรุงทั้งเนื้อ หมู หนังหมู กระดูกหมู มาเคี่ยวปนกันเป็นเวลานาน จนไขมันที่ละลายอยู่
รับประทานให้อิ่มเพียง 80% ของขนาดกระเพาะอาหาร” ซึ่งถือปฏิบัติอย่างกว้างขวางบนเกาะโอกินาวา ชาวโอกินาวารับประทานอาหารที่มีแคลอรี่น้อยกว่าโดยเฉลี่ยร้อยละ 20% ซึ่งตามปกติคนญี่ปุ่น ก็รับประทานอาหารน้อยกว่าชนชาติอื่นๆ ชาวโอกินาวากลับบริโภคอาหาร ที่ให้พลังงานต่อวันเพียง 1,500 กิโลแคลอรี่ ซึ่งอาจเป็นเคล็ดลับที่ทำให้พวกเขาอายุยืน คือ รับประทานให้ไม่อิ่มมากนั่นเอง
ชีวิตของชาวโอกินาวาเป็นวิถีชีวิตที่ใช้แรงงานมาก มีเครื่องทุ่นแรงน้อย มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวอยู่เป็นนิจ ทำงานบ้านเอง ปลูกผักสวนครัว เข้าสังคม และมีกิจกรรมออกกำลังกายเป็นกลุ่ม ตั้งแต่การร่ายรำแบบพื้นเมือง ฝึกคาราเต้ รวมถึงการออกกำลังกายแบบมวยจีน ต้นแบบของคาราเต้ เกิดขึ้นที่โอกินาวา และมีการพัฒนาการตั้งแต่การฝึกสมาธิ ฝึกลมหายใจ ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายจนถึงการ