การเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท และมีสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับ นอกจากจะช่วยเพิ่มอรรถรสให้อาหารแล้ว ยังเสริมให้สุขภาพแข็งแรงได้ด้วยค่ะ
- น้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ เหมาะสำหรับคลุกเส้นพาสต้า และสปาเก็กตี้ มีสารต้านอะนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และสารโพลีฟีนอลส์ ทำหน้าที่คล้ายยาระบายอ่อนๆ
- น้ำมันเมล็ดลินิน นิยิมใช้ทำน้ำสลัด อุดมไปด้วยกรดแอลฟ่า-ไลโปอิก หรือ ALA และโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
- น้ำมันมะกอก ประกอบด้วยไขมันประเภทที่มีประโยชน์และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โอลีโรเปอิน (Oieurepeins) ที่ช่วยป้องกันไขมันไขมันชนิดร้ายไม่ให้เกาะผนังเส้นเลือด ไม่ควรปรุงด้วยความร้อนสูงเพราะจะทำลายกลิ่นรสของน้ำมันมะกอกให้เสียไป
- น้ำมันกาโนลา เหมาะสำหรับการอบ ปิ้ง ย่าง มีไขมันอิ่มตัวน้อยที่สุด และยังอุดมด้วยกรดแอลฟ่า-ไลโปอิก หรือ ALA
- น้ำมันเมล็ดองุ่น ใช้สำหรับทอด หรือผัดด้วยไฟอ่อน เป็นแหล่งวิตามินอี เบต้าแคโรทีน และสเตอรอลที่ช่วยป้องกันการสะสมของคอเลสเตอรอล
- น้ำมันรำข้าว เหมาะกับการทอดที่ต้องใช้น้ำมันมากๆ หรือผัดในกระทะด้วยความร้อนสูง ประกอบด้วยวิตามินและสารธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งวิตามินอี กลุ่มโทโคฟีรอล (Tocopheral) โอไรซานอล (Oryzanol) และโทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งมะเร็งเต้านมและมะเร็งผิวหนัง
นอกจากจะมีน้ำมันหลากหลายประเภทให้คนรักสุขภาพได้เลือกใช้แล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการปรุงอาหารโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน หรือใช้น้ำมันในปริมาณน้อย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบทุกหมู่ และเพิ่มความน่ารับประทานให้กับอาหาร นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ห่างไกลไขมันตัวร้ายที่แฝงมากับน้ำมันได้