การงีบหลับในตอนกลางวันแม้จะเพียง 10 นาที ก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้มากกว่าคนที่นอนสองชั่วโมง แต่นอนไม่เต็มอิ่มแล้ว จากที่มีการวิจัยในวารสารที่เกี่ยวกับการนอนหลับได้กล่าวว่า
การงีบหลับจะสามารถช่วยทำให้การตื่นตัวของคุณดีขึ้น รวมทั้งการทำงาน, ความคิดสร้างสรรค์และประโยชน์อื่นๆที่เกิดจากการได้พัก ดังนั้นวิธีที่คุณสามารถงีบหลับแล้วให้ร่างกายกลับเข้าสู่โหมดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ลองอ่านบทความนี้ดู เรามีเคล็ดลับที่จะทำให้คุณงีบหลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ
มีเวลาและสถานที่มากมายที่คุณจะใช้พักผ่อนหรือการเล่น การพักผ่อนของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนเพียงแค่การวิ่งเล่นในสถานที่ที่สบาย ก็ถือเป็นการพักผ่อนแล้ว
1.การวิเคราะห์ตารางการนอนของคุณ
จากหนังสือของ Mednick ที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการงีบหลับขึ้นอยู่กับว่าคุณตื่นขึ้นมาเมื่อใด ตัวอย่าง เช่น สำหรับคนที่ตอนพระอาทิตย์ขึ้นเวลา ตีห้า ควรจะงีบตอนบ่ายโมง ขณะที่คนที่ตื่นตอนเก้าโมงเช้า ไม่ควรจะงีบหลับจนกว่าจะถึงบ่ายสามโมง คุณสามารถนำเทคนิคของ Mednick มาใช้ได้ เพื่อหาเวลาที่ดีที่สุดในการตื่นนอนและงีบหลับ
2.การเลือกช่วงกลางวัน
ในช่วงปลายปี 1980 นักวิจัยเริ่มที่จะให้ผู้คนสนใจเรื่องการงีบหรือการนอนหลับมากยิ่งขึ้น หนึ่งในข้อสังเกตเกี่ยวกับการนอนหลับในตอนกลางวัน คือ พวกเขามักจะกลัวการนอนกลางวันซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ พวกเขาพบว่า ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่ต้องการได้ มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะนอนหลับได้อีกเป็นเวลานานในตอนกลางคืน และครั้งเดียวในช่วงสั้นๆตอนกลางวัน ดังนั้นหากคุณสามารถกำหนดตารางให้สามารถนอนพักในตอนกลางวันได้ก็จะเป็นการดีกับคุณที่จะได้พัก และไม่ต้องต่อสู้กับความง่วงนอนในตอนบ่ายๆ
“การงีบหลับ 30 นาที จะช่วยทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้นและช่วยป้องกันการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย เช่นเดียวกับการศึกษาหนึ่งที่บอกว่า การดื่มกาแฟจะช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ”
3.การคิดไปข้างหน้า
การอดนอนตลอดทั้งคืนไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับคุณ แต่หากว่าคุณอยู่ในภาวะที่ไม่ได้นอน การงีบหลับอาจจะเป็นสิ่งที่ดี การวิจัยพบว่า การงีบหลับยาวๆนั้น ประมาณสองชั่วโมงหรือมากกว่านั้น จะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาได้ถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้การงีบหลับในขั้นต้นยังช่วยลดผลกระทบจากการอดนอนได้ดีอีกด้วย
4.ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
การนอนหลับตอนกลางคืนเพียง 6 – 7 ชั่วโมงก็สามารถทำให้คุณเผลอหลับหรือง่วงนอนได้เมื่อเทียบกับคนที่นอน 8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การงีบหลับ 30 นาที จะช่วยทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้นและช่วยป้องกันการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย เช่นเดียวกับการศึกษาหนึ่งที่บอกว่า การดื่มกาแฟจะช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก หรือวัยรุ่นจะงีบหลับได้อย่างรวดเร็ว
5.การทำงานช่วงกลางคืน
คนที่มีการทำงานเป็นกะ คือ ไม่ได้ทำงานแบบคนทั่วไปที่เข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น นั้นสามารถได้ประโยชน์จากการงีบหลับได้ด้วย การศึกษาที่เกี่ยวกับคนทำงานกลางคืนพบว่า การงีบหลับในตอนเย็นรวมถึงคาเฟอีนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณตื่นตัว การงีบหลับนี้จะช่วยทำให้คุณกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบการบริโภคคาเฟอีนก็สามารถงีบหลับแทนได้
การงีบหลับอย่างฉลาด
วิธีที่คุณจะงีบหลับได้อย่างคุ้มค่ากับเวลานั้น เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณนอนหลับได้เร็วขึ้นและตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น
6.เวลาที่เหมาะสม
ในการศึกษามีการทดสอบที่หลากหลายของเวลาในการงีบหลับ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาระหว่าง 10 และ 20 นาทีเป็นเวลาที่ดีที่สุด การนอนหลับนานเกินไปจะทำให้เกิดผลกระทบได้ คือ จะไม่มีชีวิตชีวาหรือจะอยู่ในความมึนงง และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งเกิดจากการตื่นขึ้นมาระหว่างกลางดึก
“มันอาจจะยากที่จะหลับ หากว่าคุณมีความกังวลใจเกี่ยวกับว่า คุณจะตื่นขึ้นมาตอนไหนจึงจะเหมาะสมที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น การตั้งนาฬิกาปลุกจะช่วยลดความกดดันเรื่องนี้ลง”
7.การตั้งปลุก
“การตั้งนาฬิกาปลุกมีประโยชน์มากสำหรับการงีบหลับ” กล่าวโดย ดร. Janet Kennedy นักจิตวิทยา ซึ่งกล่าวเพิ่มเติมว่า “มันอาจจะยากที่จะหลับ หากว่าคุณมีความกังวลใจเกี่ยวกับว่า คุณจะตื่นขึ้นมาตอนไหนจึงจะเหมาะสมที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น การตั้งนาฬิกาปลุกจะช่วยลดความกดดันเรื่องนี้ลง”
8.การหาสถานที่ที่ทำให้คุณหลับได้อย่างมีความสุข
การงีบหลับที่สมบูรณ์แบบ คือ การที่คุณต้องหาสถานที่ที่มืดและเงียบสงบในการจะล้มตัวลงนอน หากนอนไม่หลับจริงๆ ให้ลองใช้หน้ากาปิดตา เพื่อช่วยให้หลับได้ง่ายมากขึ้น แต่หากคุณอยู่ในที่ที่เสียงดังแล้ว การนอนหลับของคุณจะไม่มีประสิทธิภาพ
9.สั่งคาปูชิโน่
คาเฟอีนที่ช่วยให้งีบหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมอยู่ การดื่มแล้วงีบให้ผลที่ดีกว่าการงีบและการดื่มคาเฟอีนเพียงอย่างเดียว เพราะว่าคาเฟอีนจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะออกฤทธิ์ การดื่มก่อนที่จะงีบหลับประมาณ 10 ถึง 20 นาที หมายความว่า คาเฟอีนจะเริ่มทำงานคือการที่คุณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นแบะกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น
10.การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิ คือ การที่คุณจะได้ฝึกการหลับแบบที่ตาของคุณยังเปิดอยู่ รวมทั้งการนั่งสมาธิยังเป็นการเพ่งความสนใจไปที่ที่เดียวรวมทั้งการหายใจ ทำให้คุณรู้สึกสงบมากยิ่งขึ้น ทำให้ความคิดของคุณโลดแล่นมากยิ่งขึ้น การนั่งสมาธิก็เช่นเดียวกับการพักผ่อนอย่างหนึ่ง การนั่งสมาธิยังเป็นการกำหนดลมหายใจที่ทำให้จิตใจและสมองของคุณแน่วแน่มากยิ่งขึ้น
11.ทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง
ดร..Kennedy ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “บางคนก็ไม่ได้เป็นคนที่นอนหลับได้ดี” หากเคล็ดลับข้างต้นไม่เหมาะกับคุณหรือทำแล้วไม่ได้ผล (คุณไม่สามารถนอนหลับได้, ตื่นขึ้นมากลางดึก เป็นต้น) คุณอาจจะข้ามตัวเลือกในการนอนกลางวันไปและคุณต้องแน่ใจว่าในเวลากลางคืนคุณสามารถนอนหลับได้อย่างสนิทในเวลานอนตามปกติของคุณ
12.ไม่อดนอนตอนกลางคืน
ดร. Kennedy กล่าวว่า การงีบหลับอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับคุณ หากคนนั้นเป็นคนที่หลับได้ยากในตอนกลางคืน หรือตื่นขึ้นกลางดึก เราขอแนะนำให้คุณทำสิ่งที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมา รวมทั้งการไม่อดนอนในตอนกลางคืน ควรจะนอนให้เป็นเวลาและตรงเวลาทุกคืน ก็จะช่วยให้คุณพักผ่อนอย่างเพียงพอได้
13.การหลีกเลี่ยง
เห็นได้ชัดว่า บางสถานที่ในการทำงานไม่สามารถงีบหลับได้ง่ายๆ การงีบหลับในช่วงพักกลางวันที่ออฟฟิศ อาจจะงีบหลับได้ประมาณ 20 นาที การงีบหลับที่โต๊ะของคุณอาจจะช่วยได้ แต่การนอนของคุณอาจจะไม่ได้หลับสนิทเพราะออฟฟิศจะมีสิ่งที่รบกวนมากมาย แค่เพียงหลับตาก็ถือว่าคุณได้พักแล้ว