คุณอาจจะประสบกับภาวะงานที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความเครียดต่างๆจาก อีเมล์งานที่ส่งมากระหน่ำแบบไม่รู้จบ, การโนเพื่อนร่วมงานส่อเสียด, การไม่จ่ายค่าทำงานล่วงเวลา นั่นคือเหตุผลที่ทำให้คุณยังเครียดและทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง
แต่มีการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Social Psychiatry and Psychiatric Epidemiology ซึ่งพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในออฟฟิศที่ทำให้คุณรู้สึกแย่เพียงเท่านั้น (แม้ว่างานจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณมากก็ตาม)
บทความนี้เป็นเหตุผล 3 ข้อที่เป็นาเหตุที่ทำให้คุณไม่มีชีวิตชีวาหรือหมดแรงในการทำงานและทำสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน
คุณไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอจากที่บ้าน
หากคุณไม่ได้รับการสนับสนุนจากที่บ้าน มันก็เหมือนกับการที่คุณไม่สามารถระบายสิ่งที่อยู่ในใจกับคนใกล้ชิดของคุณได้ จึงอาจกลายเป็นความกดดันและความกังวลได้ การเปิดอกเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เช่นเดียวกับการมีเจ้านายที่คอยสนับสนุนคุณ ซึ่งจากการมีคนที่เข้าใจและคอยสนับสนุนนี้ จะช่วยทำให้คุณมีความเบื่อหน่ายจากการทำงานน้อยลง
นักวิจัยชาวแคนาดาพบว่า หากคุณรู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนที่ทำงาน ต่างก็ไม่ยอมรับในตัวคุณ ให้ลองพูดคุยกับพวกเขาเพื่อเปิดใจ โดยการพูดคุยและฟัง แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆไปด้วยกันและทำในระยะยาว ผลจากการเปิดใจพูดคุยกันนี้ จะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น และคุณจะมีความเครียดและความกังวลน้อยลงอีกด้วย
คุณไม่ได้เข้าสังคมเพียงพอ
เราไม่ได้พูดถึงการเข้าสื่อสังคม เช่น Facebook แต่เราหมายถึงคนที่ได้รับการสนับสนุนจากคนในสังคมที่นอกเหนือจากคนในออฟฟิศ ซึ่งการเข้าสังคมนี้จะเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสุขภาพจิตซึ่งสามารถส่งผลทำให้คุณหมดกำลังใจในการทำงานได้
การศึกษายังพบว่า การใช้เวลาไปกับการพบปะเพื่อน เพื่อดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มอย่างอื่น หลังจากเลิกงาน แม้ว่าในขณะที่ไปเจอเพื่อนนั้นคุณอาจจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีมาตลอดทั้งวันก็ตาม ส่วนใหญ่เพื่อนของคุณและตัวคุณเอง จะมีการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงานอดิเรก การพูดคุย การท่องเที่ยว (เดินป่า ปีนเขา) การอ่านหนังสือ ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถออกจากความคิดในเรื่องของการทำงาน และความเครียดต่างๆได้อีกด้วย
คุณไม่ได้หยุดพักรับประทานอาหารกลางวัน
คุณอาจจะคิดว่า การไม่ออกไปรับประทานอาหารกลางวันนั้น อาจจะดีตรงที่ว่า คุณก็ยังสามารถทำงานและไม่ต้องออกจากโต๊ะไปไหน แต่มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Toronto ที่พบว่า การไม่พักเที่ยงของคุณนี้ จะทำให้คุณมีแรงจูงใจน้อยลงและทำงานมีประสิทธิภาพน้อยลงอีกด้วย
นักวิจัยยังกล่าวอีกว่า นิสัยนี้จะส่งผลกระทบต่อพลังงานด้านจิตใจจากการไม่ทานอาหารกลางวันและไม่ยอมหยุดพัก รวมทั้งการที่ร่างกายไม่ได้พัก ดังนั้นคุณอาจจะคิดว่า การทานสลัดอยู่ที่โต๊ะทำงานของคุณ จะช่วยทำให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้นนั้น จริงๆแล้วจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจและทำให้งานเสร็จช้าลงไปอีก ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้งานไม่เสร็จและต้องทำงานล่วงเวลาอีกด้วย
มีการสำรวจโดยบริษัท Draugiem Group โดยพกวเขาพบว่า ส่วนใหญ่คนที่ลุกขึ้นและนั่งทุก 52 นาที (17 นาทีสำหรับพัก) ให้ลองหยุดพักจากงานที่ทำอยู่ในเวลาพักกลางวันและทานอาหารกลางวันตามเวลา จะช่วยทำให้งานของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น