หากคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก โดยการรับประทานอาหารให้น้อยลง, เข้าฟิตเนส, รู้สึกหนักแน่นและมีแรงบันดาลใจ แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ตัวเลขจากเครื่องวัดน้ำหนักไม่ได้ลดลงเลย อะไรที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ? บางทีอาจจะเป็นที่คุณเอง ที่ยึดมั่นกับแนวคิดที่ผิดพลาดเกี่ยวกับวิธีการที่เหมาะสมในการลดน้ำหนัก หากความเชื่อเหล่านี้ที่เราจะกล่าวในบทความเป็นสิ่งที่คุณทำอยู่ เราขอแนะนำให้เปลี่ยนวิธีและความคิด เพื่อที่จะได้ลดน้ำหนักให้ได้ผลและลดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความเชื่อผิดๆมีดังต่อไปนี้
-
การทานไขมันจะทำให้คุณอ้วน
ไขมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างแท้จริง ในความเป็นจริงอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวอยู่ ถือว่าทำให้มีสุขภาพดี เช่น อะโวคาโด,ถั่ว, ปลาแซลมอน และ น้ำมันมะกอก ซึ่งเหล่านี้ควรจะนำมาเป็นหนึ่งในโปรแกรมอาหารของคุณ
ไขมันเหล่านี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหารลงได้ Brittany Kohn นักโภชนาการจาก Middleberg Nutrition ที่นิวยอร์ค กล่าวว่า ไขมันยังมีความจำเป็นสำหรับช่วยให้เราดูดซึมวิตามินบางอย่างได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ระบบสุขภาพของคุณมีความสมดุลและมีสุขภาพดี
-
แคลอรีทั้งหมดเท่ากัน
การลดจำนวนแคลอรีโดยการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกาย เพื่อให้น้ำหนักลด แต่ไม่สามารถเร่งการลดน้ำหนักได้ เมื่อเทียบแคลอรีต่อแคลอรี การลดอาหารที่ทานและสารอาหารไม่ส่งผลอะไรมากนัก แคลอรีจากธรรมชาตินั้น มีผลไม้ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูป,ธัญพืชและเนื้อสัตว์ติดมัน ซึ่งจะทำให้คุณมีความพึงพอใจในการลดน้ำหนักมากกว่าอาหารหรือวัตถุดิบที่ผ่านการแปรรูปและการบรรจุมา ซึ่งอาหารและวัตถุดิบต่างๆที่เราทาน มีแคลอรีที่ไม่เท่ากัน หากคุณต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง การคำนวณแคลอรีเป็นสิ่งสำคัญมาก ทางโภชนาการจะมีบอกเอาไว้ว่า อาหารแต่ละชนิดมีจำนวนแคลอรีประมาณเท่าไหร่ ซึ่งคุณสามารถนำมาปรับใช้กับแผนการลดน้ำหนักของคุณได้ แต่โปรดทราบไว้ว่าความเชื่อเรื่องแคลอรีที่เท่ากันนั้น ไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกต้อง
-
ปลดปล่อยตัวเองหนึ่งวัน
การจัดตารางที่มีช่วงเวลา “การปลดปล่อย” ตัวเองจากการควบคุมอาหารหนึ่งวันต่อสัปดาห์หรือหนึ่งเดือนนั้น ทำให้คุณอยู่ในความคิดเพียงแค่ว่า การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำแค่ชั่วคราวและเป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกฝืนใจที่จะต้องมีการหยุดพัก เพื่อตามใจตัวเองในการรับประทานอาหารที่อยากทานในช่วงที่ควบคุมอาหารอยู่ จริงๆแล้วการลดน้ำหนักนั้น คุณต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตอย่างถาวร ไม่ใช่เพียงชั่วคราว โดยต้องจัดลำดับความสำคัญของอาหารที่ดีต่อสุขภาพทุกวันและไม่กังวลเกี่ยวกับการต้องอยู่ในกฎเกณฑ์อีก
-
การทานให้น้อยลง ทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
ตามความเป็นจริงแล้ว การรับประทานอาหารน้อยลง จะทำให้การเผาผลาญที่เร็วนั้นชะลอตัวลงมันเป็นวิธีที่ร่างกายของคุณพยายามที่จะรักษาพลังงานไว้ และนั่นหมายความว่า หลังจากการลดน้ำหนักน้ำบางส่วนยังคงมีอยู่ เพราะฉะนั้นตัวเลขจากการลดน้ำหนักก็จะไม่ได้ขยับมากนัก
ไม่เพียงแค่นั้น ความอยากอาหารอาจนำไปสู่การดื่มสุราในปริมาณมากในภายหลัง การลดน้ำหนักนั้นไม่ควรจะอดอาหารด้วยตัวคุณเอง แต่ควรทานอาหารที่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับร่างกายของคุณเองและสามารถทำให้คุณพออิ่มและมีพลังงานมากขึ้น
-
หากคุณทำให้วันนั้นเป็นวันที่ไร้กฎ คุณอาจจะกินอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
ไม่มีอะไรห้ามความคิดของคุณได้ เรื่องการลดน้ำหนักกับการห้ามใจไม่ให้ทานของที่อยู่ในครัวนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แทนที่คุณจะรู้สึกแย่ คุณควรคิดว่า การทานอาหารที่มากเกินไปอาจทำให้คุณมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ และการลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นการไร้กฎของแต่ละวัน จึงไม่มีประโยชน์และส่งผลต่อการลดน้ำหนัก แต่จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักมากกว่า
-
คุณสามารถทานได้มากเท่าที่คุณต้องการ ตราบเท่าที่มันดีต่อสุขภาพ
ส่วนใหญ่อาหารหลายๆชนิดมีประโยชน์ที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสลัดหรือพิซซ่า การทำให้กระเพาะอาหารของคุณขยายมากขึ้น เพื่อจะรับอาหารมากขึ้น เพื่อเติมเต็มความหิวและความอยากอาหารของคุณที่บริโภคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ อาหารเพื่อสุขภาพจะมีไขมันต่ำ, น้ำตาลน้อยและ คาร์โบไฮเดรตต่ำ จะทำให้คุณพอใจและลดความอยากอาหารได้มากขึ้น รวมทั้งยังทำให้คุณหายเหนื่อยได้อีกด้วย
-
หากคุณไม่หิวในมื้อเช้า คุณสามารถไปทานทีเดียวได้เลยในตอนกลางวัน
คุณอาจจะเคยได้ยินคนกล่าวมาหลายครั้งหลายหนว่า อาหารเช้านั้นเป็นมื้อที่สำคัญมากที่สุดของวัน แต่หากคุณพยายามที่จะลดน้ำหนักโดยการข้ามมื้อนี้ไป มันจะส่งผลร้ายมากกว่าที่คุณคิด
“หากคุณไม่รู้สึกหิวในตอนเช้า มันอาจจะหมายความว่า คุณทานมากเกินไปจากคืนก่อนหน้านั้น” แม้คนส่วนใหญ่จะบริโภคอาหารในแต่ละมื้อไม่เท่ากัน แต่การทานอาหารเช้านั้นเป็นการบริโภคอย่างชาญฉลาด และเป็นการทำให้ร่างกายของคุณสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ดีตลอดทั้งวันอีกด้วย