เราต่างรู้กันดีว่า การนั่งทานคุกกี้ทั้งกล่องมันไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับคุณ และผู้เชี่ยวชาญก็ได้กล่าวว่า การรับประทานอาหารมากเกินไปแน่นอนว่า จะทำให้เราได้รับคุณค่าทางโภชนาการที่มากขึ้น แต่การรับประทานมากขึ้นนี้ อาจทำให้เป็นอันตรายกับร่างกายของเราได้ รวมทั้งยังอาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา และทำให้คุณต้องวางแผนลดน้ำหนักอีก
ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นที่คุณจะทิ้งอาหารเหล่านี้ทั้งหมด แต่คุณสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป การรับประทานอาหารในปริมาณที่พอดี จะเป็นการป้องกันเรื่องสุขภาพของคุณได้ แต่หากทานอาหารดังต่อไปนี้มากเกินไป อาจจะเป็นอันตรายกับสุขภาพของคุณได้
ส้มและมะเขือเทศ
คุณจะต้องระมัดระวังตัวเองไม่ให้หมกมุ่นกับอาหารที่มีรสชาติอร่อยมากจนเกินไป รวมถึงอาหารตามแฟชั่นในฤดูร้อนที่มีความเป็นกรดสูง
ปริมาณกรดที่เพิ่มสูงขึ้นนี้จะเกี่ยวข้องกับการรับประทานส้มและมะเขือเทศมากเกินไป และอาจจะทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนได้ การรับประทานมากเกินเป็นช่วงเวลานานนี้ อาจจะทำให้เกิดภาะวที่เซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร มีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเซลล์ Columnar หรือ Glandular ได้
ดังนั้น การรับประทานส้มและมะเขือเทศ ไม่ควรจะเกินสองลูกต่อวัน และควรหลีกเลี่ยงผลไม้และผักประเภทนี้อย่างสิ้นเชิง หากว่าคุณมีอาการของกรดไหลย้อน
ปลาทูน่ากระป๋อง
ปลาทูน่ากระป๋องนี้มันง่ายมากสำหรับการเตรียมเป็นอาหาร เพราะเป็นปลาที่มีแคลอรีต่ำและสามารถนำมาทานคู่กับสลัดหรือแซนวิชได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การรับประทานปลาทูน่ามากเกินไปอาจส่งผลที่เป็นอันตรายได้กับระดับของสารปรอท เนื่องมาจากปลาทูน่าเป็นปลาที่มีสารปรอทสูงกว่าปลาชนิดอื่น
การได้รับสารปรอทมากเกินไป จะนำไปสู่ปัญหาด้านการมองเห็น, การได้ยินและการพูดอาจจะบกพร่อง กล้ามเนื้ออ่อนแรงและไม่สามารถเคลื่อนไหวไปพร้อมกันได้
ดังนั้นคุณไม่ควรรับประทานปลาทูน่ามากกว่า 3 – 5 กระป๋องต่อสัปดาห์ และให้ลองสลับทานปลาที่มีสารปรอทต่ำๆดูบ้าง เช่น ปลาแซลมอน, กุ้ง และ ปลาพอลล็อก เป็นต้น
น้ำ
Alan R. Gaby ผู้เขียนหนังสือ Nutritional Medicine ได้กล่าวว่า น้ำเป็นกุญแจที่สำคัญที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดี แต่การดื่มน้ำมากเกินไปก็อาจจะทำให้เรามึนเมาได้
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อระดับโซเดียมในร่างกาย รวมทั้งยังทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่าปกติอีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานที่บกพร่องทางสมองและอาจทำให้เสียชีวิตได้
น้ำในปริมาณเท่าไหร่จึงจะทำให้เกิดปัญหาได้ ? ปัญหานี้มักจะเกิดกับคนที่บังคับให้ตัวเองพยายามที่จะดื่มน้ำซึ่งมากเกินไป โดยคุณต้องแน่ใจไม่ดื่มน้ำมากจนเกินไป วันหนึ่งควรดื่มน้ำประมาณ 8 – 10 แก้ว
ถั่วเหลือง
สำหรับคนที่รักการทานเต้าหู้ ฟังทางนี้!
ถั่วเหลืองสามารถช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตได้หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กได้อีกด้วย ดังนั้นหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลทำให้เป็นโลหิตจางเพราะขาดธาตุเหล็กได้
เพราะว่าถั่วเหลืองมีสารเอสโตรเจน เหมือนสารประกอบ (มีคุณสมบัติคล้าย) การบริโภคในระยะยาวและในปริมาณมาก อาจส่งผลทำให้เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกขยายตัว และอาจกลายเป็นโรงมะเร็งปากมดลูกได้
การทานถั่วเหลืองนั้นไม่มีวิธีที่บอกแน่นอนว่า ควรจะทานเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย แต่หากทานในระดับที่เหมาะสม ควรทานประมาณ 2 จานต่อวันหรือน้อยกว่านั้น
ผักขม
ผักชนิดนี้มีประโยชน์มากมานและเป็นผักใบเขียวที่มีรสชาติอร่อย และอุดมไปด้วยสิ่งที่ดีๆกับร่างกายมากมาย ผักชนิดนี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี, มีไฟเบอร์ และมีวิตามิน แร่ธาตุที่หลากหลาย
นอกจากนี้ผักโขมยังมีลูทีนสูงอีกด้วย มีแคโรทีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม (ซึ่งเป็นสาเหตุของการมองเห็นที่แย่ลงและอาจจะตาบอดได้)
อย่างไรก็ตาม ผักโขมยังมีการออกซาเลต (Oxalate)ที่สูงอีกด้วย ซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถทำให้เกิดนิ่วในไตได้ ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นนิ่วในไตควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานผักชนิดนี้ที่มากเกินไป
บราซิลนัท
บราซิลนัทสามารถเป็นขนมขบเคี้ยวได้และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีไฟเบอร์ รวมทั้งยังมีกรดไขมันที่จำเป็นอีกด้วย ดังนั้นการรับประทานถั่ว สามารถลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตลงได้
คุณไม่ควรจะทานถั่วเหล่านี้ทุกวันและในปริมาณที่มากเกินไป เพราะถั่วนี้อุดมไปด้วยเซเลเนียมและสารอาหารที่สามารถเป็นพิษได้หากทานมากเกินไป
การทานถั่วชนิดนี้มากจนเกินไปอาจจะทำให้ผมร่วง, เล็บบางและเปราะง่าย, โรคผิวหนัง, ความผิดปกติของระบบประสาทและสำหรับกรณีที่รุนแรงอาจจะเสียชีวิตได้ Joel Fuhrman เป็นนักวิจัยทางโภชนาการและผู้เขียน The End of Dieting ได้กล่าวว่า บราซิลนัทจะรักษาเซเลเนียมที่สูง ดังนั้นคุณไม่ควรจะรับประทานมากกว่า 10 วัน
โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
หากคุณชอบทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่หรือไข่ขาวที่ต้องทานทุกวัน เพื่อต้องการให้ร่างกายรับโปรตีน มันอาจจะถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแล้ว
Fuhrman กล่าวว่า การบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินของปัจจัยการเจริญเติบโต หรือ IGF-1 ซึ่งจะทำให้มีริ้วรอยเพิ่มากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง (โดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านม) เมื่ออยู่ในระดับที่สูง
ในความเป็นจริง มีการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเซลล์ของการเผาผลาญอาหารพบว่า มีอัตราความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นถึง 75 % และเป็นผู้ที่มีแคลอรีที่ได้มาจากการบริโภคเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 20 %
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือ พยายามบริโภคแหล่งที่เป็นโปรตีนแหล่งอื่น เช่น ถั่ว, เมล็ดและธัญพืช ทั้งนี้ควรบริโภคทุกๆอย่างในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้การทำงานของร่างกายไม่ทำงานหนักจนเกินไป