ช็อคโกแลตขนมหวานที่มีรสชาติที่อร่อยที่สุดในโลก ไม่มีอะไรที่มีรสชาติเหมือนช็อคโกแลตอีกแล้ว หากคุณต้องการทานของหวาน แม้จะทานช็อคโกแลตเพียงเล็กน้อยก็ทำให้คุณรู้สึกว่าทุกอย่างดีขึ้นมาทันที บางคนถึงกับบอกว่า ถ้าพวกเขาไม่มีช็อคโกแลต โลกของพวกเขาจะมืดหม่นลงเลยทีเดียว
สำหรับคนที่รักช็อคโกแลต การศึกษาวิจัยที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าช็อคโกแลตมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ช็อคโกแลตมันดีสำหรับคุณจริงหรือ ? หรือ คุณเพียงแค่คิดไปเอง ? คุณสามารถหาคำตอบทุกอย่างที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับประโยชน์และผลเสียของช็อคโกแลตได้จากบทความนี้
ช็อคโกแลตดีสำหรับคุณหรือไม่ ?
คุณอาจกำลังสงสัยและตั้งตารอคอยคำตอบว่า ช็อคโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร ดังนั้นบทความนี้จึงมีคำตอบสำหรับคุณ
- ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดในสมองตีบ – มีการวิจัยหนึ่งที่สวีเดนพบว่า การทานช็อคโกแลต 45 กรัมต่อสัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบได้ถึง 20% โดย ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในช็อคโกแลตจะช่วยกำจัดโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดงได้อย่างมีปะสิทธิภาพ
- ป้องกันโรคหัวใจวาย – กลุ่มเลือดที่จับตัวกันจะทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น การทานช็อคโกแลตจะช่วยทำให้กลุ่มเลือดนั้นมีการแข็งตัวน้อยลง และช่วยลดโอกาสของการเกิดอาการหัวใจวายได้
- ทำให้คุณฉลาดขึ้น – การศึกษาวิจัยในอังกฤษพบว่าผู้ที่ดื่มโกโก้จะสามารถคิดเลขในใจได้ดีขึ้น โดย ฟลาโวนอล (Flavonols) – เป็นชนิดหนึ่งของ ฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ในช็อคโกแลต – พิสูจน์แล้วว่าช่วยกระตุ้นสมองและมีประสิทธิภาพในการเพิ่มพลังสมอง ดังนั้นอาจเป็นคาวมคิดที่ดี ถ้าคุณจะทานช็อคโกแลตก่อนทำทดสอบหรือทำข้อสอบ
- ป้องกันการอักเสบในเลือด – การศึกษาวิจัยในปี 2008 พบว่าการทานช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) 1 แท่งต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงจากการอักเสบในเลือดได้ เพียงแค่ทานช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) 7 กรัมต่อวันก็สามารถช่วยขจัดโปรตีนที่ทำให้เกิดการอักเสบในเลือดได้แล้ว
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง – ช็อคโกแลตมีสารอาหารที่เรียกว่า Pentamer ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ว ในการศึกษาวิจัย ปี 2005 ในกรุงลอนดอน Pentamer สามารถป้องกันการผลิตโปรตีนที่ทำให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจาย การทานช็อคโกแลตจึงอาจเพียงพอที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งและการป้องกันจากโรคนี้ได้
- ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น – ช็อคโกแลตไม่ใช่แค่ดีในการทำให้คุณหายอยากจากการทานของหวาน แต่ดูเหมือนว่ามันยังดีต่อผิวของคุณอีกด้วย! ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว แต่มันช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV –เพราะมี ฟลาโวนอยด์ (flavonoid) เป็นส่วนผสม
- การต้านโรคเบาหวาน – คุณรู้ไหมว่าช็อคโกแลตทำให้ร่างกายมีความไวต่ออินซูลินมากขึ้น ? อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคุณและความไวนี้อาจทำให้คุณเป็นโรคเบาหวานได้ ดังนั้นการช็อคโกแลตแม้เพียงเล็กน้อยทุกวันก็สามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวานได้
- เพิ่มระบบหมุนเวียนเลือดในสมอง – ในการศึกษาวิจัย ปี 2008 มีผู้เข้าร่วมในการทดสอบ ทดสอบโดยการบริโภคช็อคโกแลตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นนักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมทดสอบมีระบบการหมุนเวียนของเลือดในสมองเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อีกด้วย
- แก้อาการไอ – ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าช็อคโกแลตสามารถแก้อาการไอได้ เนื่องจากส่วนผสมของช็อคโกแลตมีสารประกอบเคมีธรรมชาติที่ชื่อว่า ธีโอโบรไมน์ (Theobromine) ซึ่งสามารถออกฤทธิ์ไปยังเส้นประสาทเวกัสที่อยู่ในสมองและควบคุมการไอ นักวิจัยจึงเริ่มต้นวิเคราะห์ ธีโอโบรไมน์ (Theobromine) และคิดว่าน่าจะสามารถนำมาทำแทนยาแก้ไอในปัจจุบันที่มีสารโคดีอีน (Codeine) โดยบางคนนำไปใช้เป็นยาเสพติดแทนได้
- ช่วยพัฒนาการทำงานของสมอง – จากการศึกษาวิจัยที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins พบว่าช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) สามารถป้องกันเซลล์ในสมองของคุณและไม่ให้เกิดการอาการสมองเสื่อม มันสามารถลดการทำลายเซลล์สมองลงได้ เนื่องจากมีสารเอพิกาเตชิน ( Epicatechin ) ที่อยู่ในช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) เมื่อนำมาทดลองกับสัตว์ก็พบว่าช็อคโกแลตสามารถทำให้มีความจำที่ดีขึ้น
- แบคทีเรียที่มีประโยชน์ – นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ตีพิมพ์บทความที่อธิบายเกี่ยวกับประโยชน์ของ ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ที่มีผลต่อแบคทีเรียในลำไส้ของคุณ ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ในโกโก้ที่เกิดจากการหมักแบคทีเรีย ซึ่งผลิตโปรไบโอติกส์ (Probiotic) ที่นำไปสู่การทำให้การย่อยอาหาร, ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้นอีกด้วย
- เพิ่มอายุขัย – Jeanne Louise Calment ที่มีอายุถึง 122 ปี ถือว่ามีชีวิตอยู่ยาวนานมากกว่าทุกคนและเธอทานช็อคโกแลต 2 ปอนด์ครึ่งในทุกๆสัปดาห์ การศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่าช็อคโกแลตสามารถเพิ่มอายุขัยได้โดยเฉลี่ยถึงสองปี ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่คุณทานช็อคโกแลตเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่อย่างยืนยาว!
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นประโยชน์ของช็อคโกแลตที่คุณไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่งจากประโยชน์นี้อาจจะทำให้คุณอยากทานช็อคโกแลตขึ้นมาทันใดและต้องออกไปซื้อมาทานตอนนี้เลยหรือไม่ ?
แต่ช็อคโกแลตไม่ได้มีเพียงแต่ประโยชน์มากมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันยังมีข้อเสียบางอย่างเพื่อรักษาความอร่อยอีกด้วย………
ข้อเสียของช็อคโกแลต
Chocoholics คือ โรคติดช็อคโกแลต ซึ่งเรามีข่าวร้ายสำหรับคุณ งานวิจัยบางงานได้บอกไว้ว่า : ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate)ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายอย่างที่คุณคิด!
โปรดอย่าเข้าใจผิด ประโยชน์จากที่กล่าวมาข้างต้นมีมากมายก็จริง แต่ว่าก็ยังมีข้อเสียของช็อคโกแลตด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ช็อคโกแลตมีไขมันและแคลอรี่อิ่มตัวอยู่จำนวนมากและปัญหาเรื่องน้ำหนักที่อาจเพิ่มขึ้น ทำให้คุณต้องมาลดน้ำหนักในภายหลัง
40 กรัมของช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) จำนวน 4 ถึง 7 ชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ซึ่งมีแคลอรี่จำนวน 227 แคลอรี่และ 12 กรัมของไขมันอิ่มตัว นั่นอาจจะไม่ใช่จำนวนแคลอรี่ที่มาก แต่ 12 กรัม คือ 60 % ของไขมันอิ่มตัวรวมที่คุณสามารถทานได้ต่อวัน คุณกำลังจะได้รับไขมันที่มากขึ้นกว่าที่คุณต้องการและทั้งหมดอาจเป็นเพราะช็อคโกแลต
ช็อคโกแลตมีส่วนผสมที่เป็นน้ำตาลจำนวนมาก ซึ่งเรารู้กันดีว่ามันเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพน้อยที่สุดในโลก เพราะน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกให้คุณอยู่ห่างจากการช็อคโกแลตและขนมทุกชนิด
ช็อคโกแลต – โดยเฉพาะช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ที่มีคาเฟอีนผสมอยู่เป็นจำนวนมาก การที่คุณดื่มชาหรือกาแฟที่มีคาเฟอีน ยังไม่เท่าผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ควรจะหลีกเลี่ยงช็อคโกแลต ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดอีกด้วย
ประโยชน์ที่ระบุไว้ข้างต้นคือช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) แต่ช็อคโกแลตที่ขายในตลาดทุกวันนี้คือช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) คุณอาจจะทานช็อคโกแลตที่คิดว่ามันทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่คุณกำลังทำนั้นคือ การบริโภคแคลอรี่จำนวนมาก, ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาลจาก ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ที่คุณซื้อ
ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) เทียบกับ ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate)
ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate)ดีสำหรับคุณจริงหรือไม่? แน่นอนว่าดีจริงๆ คุณสามารถดูได้จากที่กล่าวมาข้างต้นว่ามีประโยชน์ที่มาก แต่ก็ไม่ควรจะทานมากเกินไป
แต่ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) ดีสำหรับคุณจริงหรือไม่? มันเป็นคำถามที่ยากจะตอบ ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) มีส่วนผสมที่เป็นน้ำตาลมากกว่า ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ในช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) มีส่วนผสมของโกโก้ที่น้อย และโกโก้เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพจากที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพน้อยกว่า ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate)
ถ้าคุณเปรียบเทียบระหว่าง ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) กับ ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) คุณจะเห็นว่าช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ชนะทุกครั้ง
ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) 100 กรัม มีส่วนผสมดังนี้ :
- 605 แคลอรี่
- 43 กรัมของไขมัน
- 25 กรัมของไขมันอิ่มตัว
- 20 มิลลิกรัมของโซเดียม
- 24 กรัมของน้ำตาล
ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) 100 กรัม มีส่วนผสมดังนี้ :
- 535 แคลอรี่
- 30 กรัมของไขมัน
- 19 กรัมของไขมันอิ่มตัว
- 79 มิลลิกรัมของโซเดียม
- 51 กรัมของน้ำตาล
ดังนั้นในขณะที่ ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) มีแคลอรี่และไขมันรวมที่สูง ส่วน ช็อคโกแลตนม (Milk Chocolate) มีโซเดียมและน้ำตาลจำนวนมาก
นี่หมายความว่าอะไร ?
- โซเดียม เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรักษาน้ำในร่างกายไว้ ซึ่งจะทำให้หัวใจของคุณทำงานอย่างหนักในการสูบฉีดเลือด การบริโภคโซเดียมที่มากเกินไปอาจทำให้คุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกอ่อนแอ หรือการเป็นโรคหัวใจวายและเต้นผิดจังหวะได้
- น้ำตาล จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความต้านทานของร่างกายกับอินซูลิน เมื่อร่างกายของคุณไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานก็จะเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพของคุณ ความจริงก็คือว่า น้ำตาลเป็นสารอาหารที่เลวร้ายที่สุดในร่างกายของคุณ น้ำตาลทำให้เกิดผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ไขมันเป็นเรื่องง่ายมากในการจัดการกับร่างกายของคุณ มันสามารถเพิ่มไขมันในร่างกายที่คุณมีอยู่แต่จะใช้เวลามากในการลดน้ำหนักและทำให้ไขมันน้อยลง
ดังนั้นในท้ายที่สุดเราจะเห็นว่า ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคุณ ไม่เพียงมีประโยชน์ที่มากมาย แต่ ช็อคโกแลตดำ (Dark Chocolate) ก็ยังมีข้อเสียเพียงเล็กน้อยอีกด้วย ดังนั้นคุณควรจะบริโภคในปริมาณที่พอดีและเหมาะสม หากคุณบริโภคมากเกินอาจเป็นปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักได้ คุณจึงควรจะได้รับสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายนอกจากรสชาติที่อร่อยของช็อคโกแลตแล้ว