เป็นการอักเสบของต่อมไขมันและรูขุมขนบริเวณใบหน้าหน้าอกและหลัง สิวเป็นปํญหาที่พบบ่อยในวัยรุ่น ลักษณะเป็นตุ่มขาวหรือตุ่มดำ(สิวอุดตัน) ตุ่มแดง ตุ่มหนองหรือเม็ดซีสต์ขนาดใหญ่ หลังจากสิวหายมักทิ้งรอยโรคไว้ เช่น รอยดำ รอยแดง แผลเป็นสิว ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียความมั่นใจ
ลักษณะสิว
ลักษณะสิวอุดตัน ลักษณะสิวอักเสบ ลักษณะสิวที่เป็นชีสต์
กลไกการเกิดสิวมีกัน4ขั้นตอน
การสร้างเคราตินในหนังกำพร้าผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันของสิว ต่อมไขมันทำงานเพิ่มขึ้น มีจำนวนของแบคทีเรีย P.acnes มากขึ้นในรูขุมขนและต่อมไขมัน เกิดปฏิกิริยาการอักเสบขึ้นในรูขุมขนหรือต่อมไขมัน
สาเหตุการเกิดสิว
สำหรับสาเหตุนั้นอาจจะมีหลายอย่างแต่ก็มีสิ่งที่ไปทำการกระตุ้นทำให้ มีหลายประการเช่น
ฮอร์โมน
สำหรับฮอร์โมนนั้นจะไปกระตุ้นต่อมน้ำมันที่ใต้ผิวหนังให้ผลิตมากขึ้น ทำให้หน้าเรามันง่าย และสามารถที่จะจับสิ่งสกปรกต่างๆได้ทำให้เปิดสิวมากขึ้น ในช่วงนี้จะมีเป็นมากที่สุด 11 – 25 ปี แล้วจะค่อยๆลดลงไปจนถึงอายุ 30 แต่อาจจะยังสามารถที่จะเป็นต่อไปเรื่อยๆ สำหรับผู้หญิงช่วงวัยหมดประจำเดือนก็จะมีสิวขึ้นได้เช่นกัน
ความสกปรก
ยังรวมไปถึงมลพิษต่างๆที่เราได้ เซลล์ผิวหนังที่หลุดออกไป สามารถที่จะไปอุดตันรูขุมขนจึงทำให้เกิดเป็นสิวขึ้นได้ แบคทีเรีย ก็มีส่วนสำหคับเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเชื่อโรคต่างๆ เพราะว่าทำให้เปิดปฎิกิริยากับสิวทำให้เกิดเป็นสิวชนิดต่างๆที่มากขึ้น หัวใหญ่ขึ้น
อาหาร
มีหลายชนิดที่มีผลทำให้เกิดสิว อย่างเช่นของที่มีความมันมากๆ หรือว่ามีน้ำตาลมากๆ จะทำให้สิวเกิดความรุนแรงมากขึ้น ถ้าเรางดอาหารพวกนี้ได้ถือเป็นการลดความอ้วนไปในตัวด้วย
ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
อาการท้องผูกมีส่วนทำให้สิวขึ้นได้เพราะว่าการขับสารพิษที่ลำใส้ใหญ่ไม่เป็นปกติจะทำให้สารพิษค้างในลำใส่และร่างกาย ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง หรือที่มีความมันจากสารเคมี อาจจะทำให้ผิวหน้าเรามัน และสำสมได้มากขึ้น
อาการแพ้
สำหรับการแพ้สามารถที่จะพบได้บ่อยไม่ว่าจะเป้ฯการระคายเคืองจากสิ่งที่มีสัมผัสกับหน้าของเราได้แทบยทุกอย่าง ดังนั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสที่ห้นาของเรา
การรักษาสิว
ความรักษาความสะอาดของใบหน้ารวมถึงความมัน หลีกเลี่ยงการบีบแกะสิว สำหรับยาที่ใช้รักษา มีทั้งยาทานและยาทา ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว ถ้ารุนแรงน้อยใช้ยาทา ถ้ารุนแรงปานกลางถึงมากใช้ยากิน เช่นยาปฏิชีวนะหรือยากรดวิตามินเอ
ชนิดของยาสิว
ยาลดการอุดตันของรูขุมขน
ยากรดวิตามินเอ เช่น tretinoin isotretinoin adapalene ออกฤทธิ์ลดการอุดตันและการอักเสบของรูขุมขน ให้ทาบริเวณเป็นสิวก่อนนอน เนื่องจากยาสลายตัวง่ายเมื่อเจอแดด
ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย
ยาปฏิชีวนะกลุ่ม erythromycin 2-4เปอร์เซ็นต์ และclindamycin 1เปอร์เซ็นต์ ทาเช้าเย็น ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียและลดการอักเสบของรูขุมขน ควร ใช้คู่กับ benzoyl peroxide เพื่อป้องกันการดื้อยา benzoyl peroxide ความเข้มข้น 2.5 5 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วยลดจำนวนของแบคทีเรียและลดการอักเสบของรูขุมขน ทาทั่วหน้าทิ้งไว้5-15นาที วันละ2ครั้ง แล้วล้างออก ผลข้างเคียงคือ แดง แสบ ขุยลอก เมื่อคุ้นกับยาจึงเพิ่มเวลาทายาขึ้น
โดยสรุป
การรักษาสิวส่วนใหญ่ได้ดี แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย2-4สัปดาห์ หลังจากสิวหายควรใช้ยาลดความอุดตันของรูขุมขนเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ ชนิดสิวรุนแรงที่ทายาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง