จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตช่วยต้านโรคร้ายแรงได้หลายชนิด
ป้องกันโรคภูมิแพ้
คนไข้ที่ทานโยเกิร์ตพร้อมดื่มทุกวันนาน8สัปดาห์มีอาการในระบบทางเดินหายใจน้อยกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ดื่ม
รักษาโรคหวัด
ในญี่ปุ่นพบว่าการกินโยเกิร์ตพร้อมดื่มทุกวัน จะช่วยให้การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนหายเร็วขึ้น
ช่วยในการขับถ่าย
ผู้ที่มีปัญหาท้องผูก และได้ทานโยเกิร์ตจะขับถ่ายดีขึ้น
ต้านเบาหวาน
สามารถต้านเบาหวานชนิด2ได้โดยกินวันละ1/3ถ้วยตวง มีโอกาสเป้นเบาหวานชนิด2น้อยกว่าผู้ไม่ทาน28เปอร์เซ็นต์โดยเชื่อว่าเกลือแร่และโปรไบโอติกส์มารวมตัวกันช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ขจัดอาการปั่นป่วนท้อง
โปรไบโอติกส์สามารถรักษาอาการปั่นป่วนท้องได้ถึง8ชนิดรวมถึงโรคท้องร่วงและลำไส้แปรป่วน
อุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียมๆเพียงพอหากทาน3ครั้งต่อวันสามารถช่วยรดน้ำหนักส่วนเกินได้มีการวิจัยออกมาว่า การรับประทานโยเกิร์ดเป็นประจำนั้นสามารถรักษาอาการท้องเสีย ท้องเดิน หรือโรคแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างดี
ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากนมได้ดีขึ้น โดยในโยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่ช่วยย่อยแคลเซียมได้ง่ายนั่นเองในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลลัส ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่อยู่ในเลือดได้
มีการวิจัยออกมาว่า การรับประทานโยเกิร์ดเป็นประจำนั้นสามารถรักษาอาการท้องเสีย ท้องเดิน หรือโรคแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างดี
โยเกิร์ตช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากนมได้ดีขึ้น โดยในโยเกิร์ตมีกรดแลคติกที่ช่วยย่อยแคลเซียมได้ง่ายนั่นเอง
ในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลลัส ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่อยู่ในเลือดได้ ดังนั้นจึงมักเห็นผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน มีส่วนผสมของโยเกิร์ตอยู่
นอกจากนั้นเจ้าแลคโตบาซิลลัส ยังสามารถช่วยตรวจจับสารโลหะหนัก สารก่อมะเร็งและกรดน้ำดีซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายได้ พูดง่ายๆ ก็คือโยเกิร์ตนั้นเป็นสารที่ยับยั้งและป้องกันการเกิดมะเร็งได้นั่นเอง นอกจากนั้นแลคโตบาซิลลัสยังสามารถยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียในลำไส้สร้างสารไนเตรทที่เป็นอันตรายอีกชนิดหนึ่งกับร่างกายได้อีกด้วย
โยเกิร์ตสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยมีการวิจัยบางชนิดพบว่า หากรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ถ้วย แบคทีเรียในโยเกิร์ตจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ร่างกายป่วยไข้ได้ง่าย