ถ้าร่างกายไม่ได้ย่อยอาหารตามกระบวนการที่ถูกต้องก็จะยิ่งทำให้ไขมันไปตกค้างอยู่ที่ลำไส้จนเกิดสารพิษก่อตัวขึ้นมาในร่างกาย อันเป็นอุปสรรคขีดขวางการลดน้ำหนัก ลองมาทำตาม 6 เคล็ดลับดังต่อไปนี้กันค่ะ เพื่อช่วยให้ระบบกลับคืนเป็นปกติแล้วคุณจะรู้สึกสบายขึ้น
1. ใช้เวลากินอาหารนานมากขึ้นอีกนิด
การเคี้ยวอาหารอย่างละเอียดมีความสำคัญต่อกระบวนการย่อยเนื่องจากทำให้เอนไซม์การย่อยดำเนินอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ควรทำอย่างจริงจังคือใช้เวลาในการกินอาหารให้นานมากขึ้นด้วยการนั่งลงแล้วมีสมาธิกับสิ่งที่กินอยู่ ระลึกเสมอว่าต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียด พยายามให้เวลาตัวเองพักเบรค 10 นาทีหลังมื้ออาหารก่อนเริ่มงานอีกครั้ง
2. กินอาหารเป็นเวลา
เทศกาลต่างๆ อาจมีผลกระทบกับมื้ออาหารของเราได้ อย่างมื้ออาหารกลางวันที่ยาวเหยียดไปจนถึงมื้อเย็นส่งผลต่อการย่อยอาหารของเรา หรือแม้แต่การปล่องท้องว่างเป็นเวลานาน ทิ้งช่วงห่างนานเกินไปแล้วมากินอาหารไขมันเพียบอย่างหิวโหยก็สามารถทำให้เกิดการผลิตแก๊สขึ้นมาได้ ซึ่งหมายถึงอาการท้องอืดนั่นเอง ควรพยายามกินอาหาร 3 มื้อ มื้อละน้อยๆ แล้วกินของว่างไขมันต่ำระหว่างมื้อ หรือผลไม้รสไม่หวานมากก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี
3. ดื่มน้ำมากๆ
น้ำที่ว่านี้ควรเป็น ”น้ำเปล่า” เพราะการะขาดน้ำทำให้คุณเกิดอาการท้องผูก จึงควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นอย่างน้อย พกขวดน้ำติดตัวไว้เสมอ หรือเอาขวดน้ำวางไว้ที่โต๊ะทำงาน จิบบ่อยๆ แนะนำให้ดื่มน้ำตาม 1 แก้วทุกครั้งหลังดื่มกาแฟหรือชา ตื่นเช้าและก่อนเข้านอนให้ดื่มน้ำแก้วโตสัก 1 แก้ว แอลกอฮอล์สามารถสร้างความระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้ ทำให้มีอาการอาหารไม่ย่อยขึ้นมา ในงานเลี้ยงคุณอาจไม่สามารถปฏิเสธการดื่มได้ ข้อแนะนำคือให้เลี่ยงไม่ดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าง หรือดื่มแอลกอฮอล์สลับกับน้ำเปล่า
4. กินกากใยไฟเบอร์
กากใยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการย่อย มีอยู่ในผลไม้ ผัก ถั่ว และธัญพืช ถ้าคุณกินอาหารเหล่านี้ก็จะไม่มีอาการท้องอืดหรือท้องผูก จากการศึกษาพบว่าโภชนาการอาหารที่มีกากใยสูงทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและเบาหวานต่ำ ร่างกายควรได้รับกากใยมากกว่าวันละ 24 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับระบบการย่อยที่ดี เคล็ดลับคือ ทานข้าวต้มเป็นอาหารเช้า เลือกของว่างเป็นผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล หรือลูกแพร์ ผลหนึ่งจะมีกากใย 3 กรัม กินสลัดพร้อมอาหารหลักเสมอ ถ้ามีให้ดีควรมีแครอทและบร็อคโคลีด้วยก็จะดีมาก
5. เลี่ยงตัวการทำให้ท้องอืด
ระบบการย่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่มีอาหารบางอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการย่อยกับบางคน เลี่ยงขนมปัง แป้งขัดขาว มัฟฟิน ซึ่งร่างกายอาจย่อยยาก ส่วนเนื้อที่มีไขมันเพียบ เช่น เบคอน ไส้กรอก อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ และพยายามค้นหาว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้คุณเกิดอาการท้องอืด
6. จัดความสมดุลของแบคทีเรีย
อย่าเพิ่งตกใจค่ะ ถ้าจะบอกว่าน้ำหนักในตัวคุณ 2 กิโลมาจากแบคทีเรีย แล้วยังมีอีกร้อยพันล้านตัวอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งก็รวมถึงแบคทีเรียดีที่ช่วยให้มีระบบการย่อยที่ดีและต่อสู้อาการอักเสบติดเชื้อด้วย โภชนาการอาหารและไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี การใช้ยา และความตึงเครียดสามารถกระตุ้นแบคทีเรียที่ไม่ดีซึ่งทำให้ระบบการย่อยของคุณเสียได้ ควรบริโภคผักและผลไม้มากๆ รวม
ทั้งโยเกิร์ตไขมันต่ำเพื่อช่วยกระตุ้นแบคทีเรียชนิดดีในร่างกาย