จากการสำรวจ สำหรับคนช่วงอายุ 30 จะเรียนรู้สิ่งต่างๆจากบทเรียนเก่า เพื่อเริ่มสิ่งใหม่ๆในปัจจุบันและอนาคต
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่และไม่ช้าก็เร็ว คุณต้องเริ่มต้นเรียนรู้ 7 ขั้นตอนนี้ เพื่อสิ่งที่ดีต่อร่างกาย
แผนการควบคุมอาหารสำหรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
อาหารตามแฟชั่นมันไม่ได้มีประโยชน์อย่างที่เราคิด เมื่อคุณอายุ 30 คุณจะรู้สึกว่าคุณได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายล้านครั้ง คุณจะได้เรียนรู้วิธีที่ยากที่สุด และสิ่งที่เราไม่เคยคำนึงถึงเกี่ยวกับอาหาร
วิธีเดียวที่จะทำให้เราเชื่อว่า เราสามารถลดน้ำหนักได้จริงๆและสามารถลดได้ในระยะยาวก็คือ การรับประทานอาหารโดยใช้สติ (ซึ่งหมายถึง การให้ความสนใจ, การปรุงรสชาติและหยุดรับประทานเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว ) และทานอาหารเพื่อสุขภาพ, เน้นทานผักและผลไม้ที่สด, โปรตีนไขมันต่ำ, ธัญพืชทั้งหมดและไขมันที่ไม่อิ่มตัว และหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำตาลและน้ำเชื่อม ธัญพืชบางชนิดที่ไม่สมบูรณ์ 100 % และไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์
หมั่นเข้าครัวและทำอาหารด้วยตัวเอง
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่า คุณกำลังรับประทานอาหารตามแผนลดน้ำหนักที่คุณได้วางไว้หรือไม่นั้น ก็คือ การทำอาหารด้วยตัวเอง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเดาว่า อาหารที่รับประทานอยู่ประกอบด้วยส่วนผสมอะไรบ้าง และจะส่งผลอย่างไรกับร่างกายของคุณ นอกจากนี้การทำอาหารด้วยตัวเอง จะทำให้คุณสามารถควบคุมรสชาติและปรุงรสได้ตามใจชอบอีกด้วย
การอ่านตำราที่เกี่ยวกับการทำอาหารหรือการเช้าครัว จะยิ่งทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานและมีแรงบันดาลใจในการทำอาหารมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การตั้งเวลานอน
คุณอาจจะคิดว่า การตั้งเวลานอนเป็นเรื่องของเด็กๆ เมื่อคุณเข้ามหาวิทยาลัยและจบออกมาทำงาน เวลาในการนอนอาจจะแตกต่างกันไป และในบางครั้งคุณอาจจะนอนไม่หลับเพราะเวลานอนในแต่ละคืนไม่ตรงกัน นั่นจึงเป็นปัญหาที่ทำให้คุณมีอาการพักผ่อนไม่เพียงพอ และเพลียได้
ในความเป็นจริงแล้ว การตั้งเวลาตื่นและเวลานานจะช่วยให้คุณรักษาเรื่องน้ำหนักเพื่อสุขภาพได้ และสามารถจัดการกับความเครียดและทำให้ผิวของคุณดี ไม่มีริ้วรอยอีกด้วย ดังนั้นการตั้งเวลาทั้งตื่นและนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
ลองเล่นโยคะหรือทำสมาธิ
การทำสมาธิจะช่วยรักษาเซลล์ในสมองและช่วยถนอมการทำงานของสมองส่วนหน่วยความจำ รวมถึงส่วนประกอบที่สามารถลดความเครียดได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้
สำหรับการนั่งสมาธิ คุณจำเป็นต้องนั่งในห้องที่เงียบสงบ ตาของคุณต้องปิด และมุ่งเน้นไปที่การหายใจ แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ การนั่งในสถานที่เงียบๆ จะทำให้คุณมีสติและความตั้งใจมากยิ่งขึ้น การหาสถานที่ดีๆก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว โยคะเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่ใช้สมาธิเช่นเดียวกัน
โยคะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น, เสริมสร้างความแข็งแรง, ลดการตอบสนองต่อความเครียดและความดันโลหิต และช่วยให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการฝึกทำสมาธิอีกด้วย
ฝึกความสมดุล
กระดูกหักในช่วงวัยชรานั้นเป็นสิ่งที่เราอาจจะไม่คาดคิด และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก็สูงขึ้นเรื่อยๆ มีงานวิจัยล่าสุดแนะนำว่า เวลาที่เราคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดไว้ก่อนนั้นเป็นสิ่งที่ดีในช่วงอายุระหว่าง 30 และ 40 ปี
นั่นคือ เมื่อคุณจำเป็นที่จะเริ่มปรับปรุงความสมดุลของตัวคุณเอง ฝึกความแข็งแรงและความสมดุลของการมองเห็น, หูชั้นในและการรับรู้กริยาต่างๆ (ความรู้สึกตามตำแหน่งต่างๆของร่างกาย) ก่อนที่เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้หลังอายุ 40 ปี
โยคะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เน้นและรักษาความสมดุลให้กับเราได้ เช่น ท่าต้นไม้, ท่าสามเหลี่ยม , ท่าที่ต้องทรงตัวด้วยขาข้างเดียว การเล่นโยคะบ่อยๆก็สามารถรักษาความสมดุลให้กับร่างกายเราได้และยังเป็นการฝึกสมาธิอีกด้วย
ใช้ครีมกันแดดทุกวัน
แสงจากดวงอาทิตย์นั้นมีผลต่ออายุของผิวเรา คุณควรจะได้รับแสงจากดวงอาทิจย์ประมาณ 20 นาทีต่อวัน (เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ในระดับที่ต่ำพอที่จะทำให้เงาสูงกว่าความสูงของคุณเอง) เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน D ที่จำเป็น
แต่ควรจะจำกัดแสงที่สัมผัสกับร่างกายโดยตรงกับร่างกายของคุณ, แขน และขา ควรจะใช้ครีมทากันแดดที่มี SPF 30 M ทาบนใบหน้าของคุณและหลังมือทุกๆวัน
การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกัน UV ที่สามารถทำลายผิวของเราได้ โดยไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินที่ผิวหนังของเรา ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยและรอยจุดด่างดำได้ นอกจากนี้เราควรจะใช้อาหารเสริมร่วมด้วยที่มีวิตามิน D3 การรักษา D3 ให้อยู่ในระดับที่เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งอื่นๆได้อีกด้วย
ใช้เรตินอลทุกคืน
ขณะที่คุณกำลังจะเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเพิ่ม เรตินอยด์ (เป็นรูปแบบของวิตามิน A) เป็นการดูแลผิวยามกลางคืน มันเป็นสิ่งเดียวที่เราสามารถทาลงบนผิวได้ ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงอาทิตย์ และจะทำให้ผิวของคุณเนียน ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และเหี่ยวย่นน้อยลง
วิตามิน A จะช่วยเพิ่มเส้นใยของอีลาสตินให้ยืดขึ้น ช่วยเพิ่มโครงสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิค ให้ผิวชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แสงแดดที่มากเกินไปอาจจะไปทำลายวิตามิน A ได้ และที่แย่กว่านั้นคือ จะทำให้ผิวของเราเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ดังนั้นคุณไม่ควรจะใช้เรตินอลในตอนเช้า ให้ใช้ตอนกลางคืนจะดีที่สุด